Vaccine Tourism มีประเทศไหนน่าไปเที่ยวบ้าง

Vaccine Tourism ประเทศไหนน่าไปเที่ยวบ้าง นั้นมาดูกันได้เลย

Vaccine Tourism คือการทัวร์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้ทั้งเที่ยวพักผ่อน แถมยังได้รับวัคซีนป้องกันโควิดตามที่กรมควบคุมโรคกำหนดเอาไว้ด้วย ซึ่งในปัจจุบันต้องบอกเลยว่าการท่องเที่ยวลักษณะนี้ กำลังมาแรงแซงทางโค้งแบบสุด ๆ วันนี้เลยจะพาไปดูว่า VaccineTourism ประเทศไหนน่าไปเที่ยวบ้าง พร้อมแล้วลุยกันเลย

Vaccine Tourism ประเทศไหนน่าไปเที่ยว มาดูกันเลย

ดูไบ

1. ดูไบ

  ดูไบ น่าจะเป็นประเทศท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคน เพราะนี่เป็นหนึ่งในนครใหญ่ที่มีความสำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแน่นอนว่าประเทศนี้ได้เปิดต้อนรับการท่องเที่ยวแบบ VaccineTourism โดยเปิดให้ฉีดวัคซีนฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ ยกเว้นเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอินเดีย ไม่เกิน 14 วัน โดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องนำผลการทดสอบโควิด 19 ที่เป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางมาด้วย ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องได้รับการทดสอบใหม่เมื่อเดินทางมา โดยขึ้นอยู่กับประเทศต้นทาง และทุกคนจำเป็นต้องกักตัวตามข้อกำหนดของแนวทางจากรัฐบาลเป็นสำคัญ

นอร์เวย์-รัสเซีย

2. นอร์เวย์-รัสเซีย

นอร์เวย์-รัสเซีย ถือเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศพี่น้องอารมณ์เดียวกับไทย-ลาว ในเขตประเทศเรา เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีภูมิประเทศติดกัน และเอื้อสิ่งต่าง ๆ รวมกันมาโดยตลอด อย่างครั้งนี้ก็มีการจัด “World Visitor” meโปรแกรมท่องเที่ยวรัสเซีย พร้อมกับการได้รับวัคซีนสปุตนิกวีด้วย ทั้งนี้ มีแพ็กเกจให้เลือกระหว่าง สามารถเดินทางได้ 2 ครั้ง ในกรอบระยะเวลา 1 เดือน แต่ละครั้งจะได้รับวัคซีน 1 โดส ในราคาจ่าย 1,199 ยูโร เข้าพักรีสอร์ตเพื่อสุขภาพสุดหรูในรัสเซียเป็นเวลา 22 วัน โดยจะได้รับวัคซีนในวันแรกและวันสุดท้ายของโปรแกรม ในราคา 2,999 ยูโร โดยคาดการณ์ว่าโปรแกรมที่นำเสนอไป จะได้รับการอนุมัติในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา

3. รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา

ต้องบอกว่าประเทศอเมริกา เป็นประเทศแรก ๆ ในโลก ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบ VaccineTourism โดยเริ่มที่รัฐอะแลสกา ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ “ไมค์ ดันเลวี” ผู้ว่ารัฐ เผยรายละเอียดสำหรับแผนการฉีดวัคซีนให้ฟรีกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในอะแลสกา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ทั้งนี้ สามารถรับวัคซีนได้ที่สนามบินหลักของรัฐ รวมถึงจะมีวัคซีนจำหน่ายนอกพื้นที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบิน 4 แห่ง ได้แก่ เมืองจูโน, เมืองแฟร์แบงค์, เมืองเคตชิคาน และเมืองแองเคอเรจ โดยจะได้รับวัคซีนของ Pfizer-BioNTech ซึ่งใช้ได้กับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป หรือวัคซีนของ Moderna ที่ใช้ได้สำหรับบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป

เซอร์เบีย

4. เซอร์เบีย

เซอร์เบีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจ และได้รับการยอมรับเรื่องการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นี่เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป และมีอาณาเขตติดกับประเทศฮังการี โรมาเนีย และบัลแกเรีย โดยก่อนหน้านี้ประเทศเซอร์เบียได้รับความสนใจจากการทดลองฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะเดียวกันประชาชนในประเทศให้ความสนใจน้อย ทางการเซอร์เบียจึงตัดสินใจที่จะนำวัคซีนที่ซื้อมาให้กับชาวต่างชาติ ฉีดให้กับประชาชนของตนแทน และยกเลิกการฉีดวัคซีนให้กับชาวต่างชาติไปจนกว่าจะมีความเปลี่ยนแปลง แต่คาดว่าในอีกไม่ช้า ประเทศนี้จะต้องกลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ในรูปแบบ VaccineTourism อย่างแน่นอน

มัลดีฟส์

5. มัลดีฟส์

มัลดีฟส์ จัดเป็นเกาะสวรรค์ของคนรักทะเล และเป็นจุดหมายปลายทางของนักดำน้ำทั่วโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการเปิดเผยข้อมูล ว่าทางรัฐมีการประกาศการท่องเที่ยววัคซีน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีแผนรองรับอย่างชัดเจนเสียทีเดียว เบื้องต้นกำหนดยุทธศาสตร์ 3V ได้แก่ Visit (เยี่ยมเยือน) Vaccinate (ฉีดวัคซีน) และ Vacation (พักร้อน) โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกคนและ Expat ที่เข้าไปทำงานในมัลดีฟส์ก่อนเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าอย่างเร็วที่สุดที่จะเริ่มฉีดประมาณเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ใครที่คิดถึงการเดินทางท่องเที่ยว แบบยั้งไม่อยู่แล้ว เตรียมให้พร้อม หาข้อมูลให้ดี และเตรียมบินไปเที่ยวตามประเทศที่เปิด Vaccine Tourism ได้เลย แต่แม้จะรับวัคซีนครบตามจำนวนแล้ว เราก็ยังต้องใช้ชีวิตอย่างระวังเช่นเดิม พยายามทำตามข้อกำหนดที่แจ้งเอาไว้ให้ได้ เพราะวัคซีนไม่ได้การันตีแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าเจ้าโควิด 19 มันจะไม่เกิดขึ้นกับเราได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อีกมากมาย ดูเพิ่มเติมได้ที่ travelsanook.com